หลายคนอาจมีความฝันอยากเป็นนักธุรกิจ หรืออยากทําแบรนด์เครื่องสําอางเป็นของตนเองแต่ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอย่างไรดี ในบทความนี้เราได้รวบรวมเทคนิคและเคล็ดต่าง ๆ สำหรับคนที่ต้องการเป็นเจ้าของแบรนด์ผ่าน 7 ขั้นตอนในการเริ่มต้น พร้อมการหาความรู้เพิ่มเติม การกำหนดงบและการเลือกแหล่งผลิตเครื่องสำอางเพื่อช่วยให้คุณเข้าใจธุรกิจมากขึ้นก่อนลงมือทำ
7 ขั้นตอนสู่การเริ่มต้นเป็นเจ้าของแบรนด์เครื่องสำอาง
- มองภาพรวม พร้อมวางแผนคร่าว ๆ ซึ่งไม่ต้องกลัวว่าถูกผิดเนื่องจากเป็นเพียงขั้นตอนการเริ่มต้นสามารถปรับเปลี่ยนได้ โดยเป็นเพียงการจดบันทึกสั้น หรือทำเป็น Mind Mapping เพื่อลงรายละเอียดความต้องการว่าอยากขายสินค้าแบบไหน ขายให้กลุ่มใด เป็นต้น
- ศึกษาความเป็นไปได้ ต่อมาเป็นการศึกษาถึงโอกาสและความเป็นไปได้ของสินค้าเพื่อลดความเสี่ยงเรื่องเวลาและเงินทุนที่ต้องใช้ หากไม่เวิร์คก็เพียงแค่พับแผนผลแล้วเริ่มใหม่ ซึ่งอาจจะเข้าไปสัมผัสกลุ่มลูกค้าและตลาดที่ต้องการขายว่ามีทิศทางไปในแบบใด ยกตัวอย่างเช่น อยากขายลิปสติก ให้กลุ่มวัยทำงานและนักศึกษาก็จะต้องไปศึกษาว่ากลุ่มเหล่านี้ชอบใช้ลิปสติกเนื้อแบบไหน เน้นเรื่องอะไร เช่น ติดทนนานอยู่ได้ทั้งวัน หรือให้สีสดใสดูกลมกลืนกับริมฝีปาก รวมถึงการราคาตลาดในปัจจุบัน แบรนด์ในไหนกำลังอยู่ในกระแส จุดเด่น จุดด้อยที่เราสามารถนำมาพัฒนาเพื่อต่อสู้กับคู่แข่งได้มีอะไรบ้าง
- หาแหล่งผลิตและโรงงานที่น่าเชื่อถือ การหาข้อมูลแหล่งผลิตเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่จำเป็นเนื่องจากในปัจจุบันมีแหล่งผลิตหลายที่ แต่อาจต้องเทียบเรื่องคุณภาพ ราคาเริ่มต้น มาตรฐานและระบบต่าง ๆ รวมถึงขั้นตอนในการผลิตใช้ระยะเวลาเท่าไรด้วยการหาข้อมูลมาเปรียบเทียบเพื่อค้นหาแหล่งผลิตที่ดีที่สุดซึ่งหนึ่งในดรงงานไทยที่อยากแนะนำได้รับรองคุณภาพและมาตรฐานจากสากล rd-intermanu ซึ่งจะมีทีมเภสัชกรให้คำปรึกษาตั้งแต่เริ่มต้นจนส่งมอบผลิตภัณฑ์เพื่อให้คุณมั่นใจว่าทุกขั้นตอนได้รับการใส่ใจและมีความปลอดภัยในทุกกระบวนการผลิต
- เลือก “สูตร” และเทสก่อนตัดสินใจ เมื่อได้แหล่งผลิตก็จะมาต่อกันที่สูตรของสินค้าที่ต้องการซึ่งโดยส่วนใหญ่โรงงานจะมีสูตรมาตรฐานอยู่แล้ว แต่หากผู้ผลิตต้องการให้สินค้ามีความโดดเด่นด้วยสูตรที่ดีกว่ามาตรฐานที่มีอยู่อาจจะต้องทำการพูดคุยกับทีมพัฒนาและควรทำการทดสอบผลิตภัณฑ์ก่อนเสมอเพื่อเป็นการยืนยันว่าเป็นไปตามความต้องการที่วางไว้
- วางแผนการตลาดและงบลงทุน เมื่อมีสินค้าและสูตรตรงใจ ก็มาเริ่มวางแผนการตลาดตั้งแต่การตั้งชื่อแบรนด์ ออกแบบโลโก้ บรรจุภัณฑ์โดยเน้นพิจารณาถึงกลุ่มลูกค้า สร้างเอกลักษณ์ของแบรนด์และวางแผนจำนวนสินค้าที่ต้องการผลิตเพื่อคาดการงบลงทุน
- เริ่มต้นดำเนินการผลิต เมื่อสูตรพร้อม ดีไซน์พร้อมและมีแผนการตลาดแล้วก็เริ่มลงมือผลิตซึ่งไม่จำเป็นต้องใช้ต้องใช้บริการเจ้าเดียวกันในการผลิตครีม โลโก้ หรือแพคเกจจิ้งเพราะบางครั้งอาจจะไม่ถูกใจการเลือกตัวเลือกอื่น ๆ จึงอาจเป็นอีกหนึ่งทางเลือกซึ่งอาจจะเพิ่มต้นทุน แต่ถ้ามองความคุ้มค่าแล้วยอมรับก็ให้เริ่มดำเนินการได้เลย
- วิเคราะห์และพัฒนาสม่ำเสมอ เมื่อได้รับสินค้าก็ต้องเริ่มการขายแก่ผู้บริโภค โดยในช่วงแรกอาจจะต้องอาศัยการทำการตลาดเพื่อให้แบรนด์สินค้าเป็นที่รู้จักและมีการบอกต่อซึ่งส่วนนี้จะช่วยออกมาในรูปแบบการรีวิว โดยเจ้าของแบรนด์สามารถนำข้อมูล Feedback ของลูกค้าไปใช้ในการวิเคราะห์เพื่อพัฒนาเครื่องสำอางให้ตอบโจทย์ผู้บริโภคมากที่สุด
นอกจากนี้ ไม่ลืมที่จะติดตามยอดขาย เพิ่มการวิเคราะห์พฤติกรรม รวมถึงศึกษาแนวโน้มการตลาดเพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าใหม่ ๆ แต่ลูกค้ายังคงภักดีต่อแบรนด์สินค้าเพื่ออัพเซลล์สินค้าให้มียอดพุ่งสร้างกำไรให้แก่แบรนด์ แต่ยังอยู่บนพื้นฐานของความซื่อสัตย์ต่อผู้บริโภค
อยากทําแบรนด์เครื่องสําอางต้องเรียนอะไร?
หากยังไม่มั่นใจการลงคอร์สเรียนถือเป็นการศึกษาที่ได้ทดลองทำจริงตั้งแต่เริ่มต้นไปจนถึงการออกมาเป็นผลิตภัณฑ์ซึ่งมีให้เลือกเรียนหลายแบบ อาทิเช่น คอร์สเรียนทำลิปสติก คอร์สเรียนทำเครื่องสำอาง คอร์สเรียนทำผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้า คอร์สเรียนทำผลิตภัณฑ์บำรุงผิวกาย
แต่ถ้าอยากเพิ่มความรวดเร็ว ไม่เสียเวลาและได้คำแนะนำจากผู้ใช้งานจริงแนะนำให้ปรึกษาโรงงาน rd-intermanu เนื่องจากมีความรู้เฉพาะทาง มีประสบการณ์จริง ให้คำปรึกษาได้ตรงจุดและลดระยะเวลาการสร้างแบรนด์ทำให้คุณสามารถผลิตสินค้าเพื่อออกจำหน่ายสร้างผลกำไรได้เร็วกว่าศึกษาเอง
3 เรื่องงบที่คุณต้องรู้ก่อนเริ่มทําแบรนด์เครื่องสําอาง
เรื่องงบเป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญเนื่องจากเป็นส่วนที่ช่วยกำหนดกำไร-ขาดทุนได้โดยควรพิจารณางบ 3 ส่วนดังนี้
- งบประมาณเกี่ยวข้องกับสินค้า ได้แก่ ค่าวัตถุดิบ ค่าบรรจุภัณฑ์ หรือค่าอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับตัวสินค้าซึ่งสำหรับผู้ที่เริ่มต้นสร้างแบรนด์แนะนำให้เน้นไปในส่วนของตัวสินค้าก่อนเพราะหากคุณภาพสินค้าดี จะทำให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำมากกว่าบรรจุภัณฑ์สวยงามที่สามารถมาปรับได้หลังจากตัวสินค้าสามารถทำกำไรได้ในระยะหนึ่ง
- งบประมาณเกี่ยวกับการตลาด หนึ่งในข้อผิดพลาดที่ทำให้หลายธุรกิจล้มเหลวคือไม่เลือกทำการตลาดเพราะคิดว่าเปลืองงบ แต่อาจส่งผลให้คุณไม่สามารถขายสินค้าอย่างที่ต้องการจนนำไปสู่การขาดทุน ยิ่งในปัจจุบันเห็นได้ชัดว่าแบรนด์เครื่องสำอางนั้นมีคู่แข่งสูงมากวางงบการตลาดจึงค่อนข้างมีความจำเป็นซึ่งได้แก่ งบทำสื่อ (ภาพสินค้า คลิปวีดิโอ การจ้าง Influencer)และงบโฆษณา (บนสื่อโซเชียลต่าง ๆ เช่น Facebook, Youtube, twitter, Google Ads ต่าง ๆ )
- งบประมาณในการดำเนินการ ซึ่งหมายถึงค่าเริ่มต้นธุรกิจที่เจ้าของแบรนด์เครื่องสําอางต้องจ่าย เช่น หากมีหน้าร้านก็จะมีค่าเช่า ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าขนส่ง เงินเดือนพนักงานและค่าบำรุงรักษาต่าง ๆ ซึ่งเป็นค่าคงที่ที่ต้องจ่ายทุกเดือน
สิ่งที่อยากฝากสำหรับคนที่อยากเป็นเจ้าของแบรนด์ครีม อยากเป็นเจ้าของแบรนด์สครับผิว หรืออยากทําแบรนด์เครื่องสําอางควรพิจารณาและวางแผนงบแต่ละส่วนให้เหมาะสมเพื่อให้เกิดความคุ้มค่าสูงสุดในการดำเนินการ
5 โรงงานผลิตครีมเครื่องสำอางค์ดีสุดในปี 2022
ทิ้งท้ายด้วยลิสต์รายชื่อ 5 โรงงานผลิตเครื่องสำอางและครีมที่ดีสุดในปี 2022 ได้แก่ rd-intermanu บริษัทฯ ที่ได้รับการไว้วางใจจากลูกค้าเรื่องความปลอดภัยที่ผ่านการรับรองมาตรฐานจากสากล ต่อมาบริษัท คอสมินา จำกัด, Aesthetic plus, วธูธร, บริษัท ไอไบโอ จำกัด (iBio) และบริษัท พรีมา แคร์ อินเตอร์เนชั่นแนลจำกัด ซึ่งค่อนข้างได้รับความนิยมในวงการเครื่องสำอางในประเทศไทย
อยากเป็นเจ้าของแบรนด์ นั้นไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแค่ต้องมีการศึกษา วางแผน ทดลองและพัฒนาอย่างสม่ำเสมอ พร้อมทั้งมีการพิจารณาถึงปัจจัยอื่น ๆ ที่อาจส่งผลกระทบอย่างรัดกุมเพื่อลดความเสี่ยงทั้งด้านการเงินและเวลาซึ่งไม่ว่าใครก็สามารถเป็นเจ้าของแบรนด์ได้เพียงแค่กล้าลงมือทำ กล้าที่จะยอมรับความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นได้ตลอดเวลาและพร้อมปรับตัวอยู่ตลอดเวลา เราเชื่อว่าคุณจะประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน
สามารถทดลองประสิทธิภาพของของเครื่องสำอางและปรึกษาแบรนด์ ได้แล้ววันนี้
โทร 034-440-258