ในปัจจุบันคงปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเครื่องสำอางเป็นเรื่องความสวยงามที่มีความจำเป็นต่อชีวิตประวันของใครหลายคน ไม่ว่าจะเป็นเพศไหน หรืออายุเท่าไรก็เริ่มหันมาดูแลเอาใจใส่ตนเองกันมากขึ้นจึงทำให้แบรนด์เครื่องสำอางผุดขึ้นมาค่อนข้างเยอะ การใช้ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ผู้บริโภคจึงต้องระมัดระวังมากขึ้นซึ่งจะมีข้อสังเกตอะไรบ้าง พร้อมข้อควรรู้เกี่ยวกับอันตรายจากเครื่องสําอางจาก 8 สารต้องห้ามที่ใช้เป็นส่วนผสม
8 สารอันตรายในเครื่องสําอาง!
เริ่มกันที่การนำคุณผู้อ่านมารู้จักกับ 8 สารอันตรายในเครื่องสำอางซึ่งแต่ละสารจะมีความเป็นพิษและส่งเสียต่อผู้บริโภคอย่างไร มาดูกัน
- พาราเบน (Paraben) สำหรับพาราเบน เป็นกลุ่มสารกันเสียในเครื่องสำอางซึ่งเป็นสารที่รบกวนฮอร์โมนส่งผลต่อการทำงานของต่อมไร้ที่ทำหน้าที่ผลิตฮอร์โมนซึ่งอาจทำให้เกิดอาการแพ้ ระคายเคืองผิวหนังและโรคผิวหนังต่าง ๆ รวมถึงยังเป็นสารก่อมะเร็งเนื่องจากง่ายต่อการสะสมในร่างกายผ่านการซึมเข้ากระแสเลือดได้รวดเร็ว
- สเตียรอยด์ (Steroid) นับเป็นสารที่พบบ่อยในเครื่องสำอางโดยเฉพาะกลุ่มบำรุงผิวหน้าซึ่งช่วยให้หน้าใสขึ้น สิวหายอย่างรวดเร็ว แต่เมื่อหยุดใช้กลับพบว่า หน้าที่เคยใสกลายเป็นสิวเห่อเนื่องจากโครงสร้างผิวอ่อนแอ เส้นเลือดฝอยขึ้นเป็นรอยแตกสีแดง เกิดสิวอักเสบ ผิวหนังติดเชื้อได้ง่าย นอกจากนี้ยังกดภูมิคุ้มกัน ยับยั้งการเติบโตของเด็กและผู้ป่วยเบาหวานไม่สามารถคุมน้ำตาลในเลือดได้
- ปรอท (Mercury) สารที่พบได้บ่อยกลุ่มเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ช่วยให้สิว ฝ้า กระหายได้อย่างรวดเร็วทำให้ผิวดูใสขึ้น แต่เมื่อหยุดใช้ผิวคล้ำลงจนเป็นสีปรอท หรือดำอมเทาอย่างเห็นได้ชัด โดยหากใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของปรอทติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน ๆ ทั้งการสูดดมและการทาจะกลายเป็นสารก่อมะเร็งและไปทำลายระบบประสาทส่วนกลาง เกิดตับ ไตอักเสบ รวมถึงภาวะโลหิตจาง
- กรดเรติโนอิก (Retinoic) กรดเรติโนอิก เรตินอล หรือวิตามิน A มักเป็นส่วนผสมในเครื่องสำอางในครีมหน้าขาวเนื่องจากมีฤทธิ์ในการกระตุ้นแบ่งเซลล์ หรือเร่งผลัดเซลล์ผิว รวมลดจำนวนเม็ดสีและลดสิวอุดตันซึ่งหากจะนมาใช้ต้องขั้นทะเบียนยาเท่านั้นและมีผลข้างเคียงคือทำให้เกิดอาการระคายเคืองผิวหนัง ผิวหน้าอักเสบ หน้าลอก แพ้แสงและเกิดภาวะผิวด่าง
- โซเดียมซัลเฟต (Sodium sulfate) มักจะอยู่ในรูปแบบสบู่ ยาสีฟัน ยาสระผมที่สามารถแทรกซึมลงไปในชั้นผิวหนังได้ถึง 5-6 มม.ซึ่งส่งผลให้ผิวบางซึ่งทำให้สารเคมีในเครื่องสําอาง หรือผลิตภัณฑ์สุขภาพแทรกซึมได้ดีขึ้นจนเกิดอาการแพ้และระคายเคืองจนเกิดปัญหาผิวหนัง
- โพลีเอธิลีนไกคอล (Polyethylene Glycols-PEGs) สารที่พบได้บ่อยในเครื่องสำอางและกลุ่มมอยเจอร์ไรเซอร์ที่เป็นหนึ่งในสารปิโตรเลียมที่มีความเป็นพิษต่ำ แต่มักพบการปนเปื้อนซึ่งหากได้ผู้ใช้ได้รับในปริมาณจะส่งผลต่อเด็กทารก คนมีโรคประจำตัว เช่น ไตวาย ลมชัก เกิดภาวะเลือดเป็นกรด กดระบบประสาทส่วนกลาง น้ำตาลในเลือดต่ำ รวมถึงเกิดผื่นแพ้สัมผัสในผู้ใช้บางคน
- ตะกั่ว (Lead) เป็นสารต้องห้ามที่พบได้บ่อยในลิปสติกเนื่องจากหากดูดซึมเข้าสู่ร่างกายจะก่อให้เกิดอาการปวดบิดอย่างรุนแรงโดยไม่ทราบสาเหตุ ร่วมกับอาการท้องผูก หรืออาจทำให้ถ่ายเป็นเลือด มีอาการซีดอ่อนแรงเนื่องจากเม็ดเลือดถูกทำลายเร็วขึ้น รวมถึงลดอัตราการสร้างเม็ดเลือดแดง
- ไฮโดรควิโนน (HYDROQUINONE) ทิ้งท้ายด้วยกลุ่มสารไฮโดรควิโนนที่เป็นตัวยาใช้สำหรับการรักษารอยดำ ฝ้า กระ หรือเม็ดสีที่มีความเข้มผิดปกติซึ่งมักพบในครีมรักษาฝ้า ครีมลอกหน้าขาวซึ่งหากใช้ในปริมาณที่สูง หรือใช้ติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน ๆ จะทำให้ผิวเกิดอาการระคายเคือง ผิวแตกแดงง่าย สีผิวไม่สม่ำเสมอ ไวต่อแสงแพ้ง่ายและอาจทำให้เป็นฝ้าถาวร
เน้นย้ำอีกครั้งกับ 8 สารอันตรายในเครื่องสำอางซึ่งมี 5 สารจาก 8 สารที่ห้ามใช้โดยเด็ดขาดในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางทุกชนิด ได้แก่ สารไฮโดรควิโนน ปรอทแอมโมเนีย กรดเรติโนอิก สารสเตียรอยด์และสารตะกั่ว เนื่องจากก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้ใช้งานทันที หรือเมื่อหยุดใช้และยังส่งผลกระทบระยะยาวเมื่อใช้ติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน เช่น ก่อให้เกิดโรคมะเร็ง โรคผิวหนัง หรือรุนแรงจนอาจถึงขั้นเสียชีวิต
แต่สารอื่น ๆ ที่ไม่ได้อยู่ใน 5 สารข้างต้นที่กล่าวมา หากจัดอยู่ในเกณฑ์สารอันตรายก็ต้องมีการตรวจสอบสารว่าการนำไปผสมเครื่องสำอางค์ในปริมาณที่สูงกว่ามาตรฐานกำหนดหรือไม่ รวมถึงก่อนซื้อเครื่องสำอางค์ทุกครั้งให้หมั่นสังเกตลักษณะสี กลิ่น เนื้อครีม มาตรฐานผลิตภัณฑ์ การรับรองต่าง ๆ และแหล่งซื้อขายว่ามีความน่าเชื่อถือและปลอดภัยหรือไม่
โดยสามารถตรวจสอบเลขผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางได้ที่ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข
คำถามที่พบบ่อยและควรระมัดระวังในการซื้อเครื่องสำอาง อันตรายที่ต้องเจอ
Q: เครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของสารต้องห้ามใดที่มีผลทำให้ผิวขาวขึ้น
ผิวขาวเป็นสิ่งที่สาว ๆ หลายคนใฝ่ฝันและต้องการให้เห็นผลไว แต่บางครั้งอาจแลกมาด้วยความเสี่ยงจากสารที่เป็นส่วนผสมต้องห้ามที่เสี่ยงต่อหน้าพังซึ่งได้แก่ สารไฮโดรควิโนน ปรอท กรดเรติโนอิก สารสเตียรอยด์และสารตะกั่ว รวมถึงกลุ่มสาร AHA และ BHA
Q: สารห้ามใช้ในเครื่องสำอางที่ใช้แล้วเป็นอันตรายต่อทารกในครรภ์
ถัดมาเป็นกลุ่มสารที่สตรีมีครรภ์ควรระมัดระวังอย่างมากในการใช้ระหว่างทารกอยู่ในครรภ์เนื่องจากอาจส่งผลต่อการเจริญเติบโตของทารก ทำให้อวัยวะผิดรูปซึ่งหากร้ายแรงอาจถึงขั้นทารกเสียชีวิตซึ่งได้แก่ สารไฮโดรควิโนน ปรอทแอมโมเนีย กรดเรติโนอิก สารสเตียรอยด์ สารตะกั่ว โพลีเอธิลีนไกคอล พาราเบน กลุ่มสาร BHA
รู้ก่อนหน้าพัง! กับ 5 จุดสังเกตก่อนเลือกซื้อครีมที่อาจมีสารอันตรายจากเครื่องสำอาง
เมื่อทราบถึงรายชื่อสารอันตรายในครีมและ 8 สารต้องห้ามในเครื่องสำอางทุกชนิด รวมถึงกลุ่มสารที่ไม่ควรระมัดระวังในกลุ่มสารทำให้ผิวขาวและอันตรายต่อทารกหากใช้ติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน ๆ หรือในปริมาณที่ไม่เหมาะสมกันไปแล้ว ก็ขอทิ้งท้ายด้วย 5 เคล็ดลับสังเกตสารอันตรายจากเครื่องสำอาง ดังนี้
- อวดอ้างสรรพคุณเกินจริง เช่น รักษาสิว ฝ้า กระ จุดด่างดำ ให้หน้ากระจ่างใส ผิวชุ่มชื่น รูขุมขนกระชับขึ้นได้อย่างรวดเร็วภายใน 7 วัน
- สีครีมผิดไปจากปกติ หรือมีสีสันมากจนเกินไป เช่น สีส้ม สีเขียว ที่อวดอ้างว่าสกัดมาจากพืชธรรมชาติอาจมีส่วนผสมของสเตียรอยด์
- กลิ่นน้ำหอมแรงผิดปกติ หากครีมมีกลิ่นฉุนเตะจมูกไม่ต่างจากสีเนื่องจากครีมอันตรายบางตัวอาจให้กลิ่นที่แรง แต่สารที่สามารถผสมในเครื่องสำอางได้และมีความปลอดภัยส่วนใหญ่จะไม่มีกลิ่น
- หยุดใช้ครีมแล้วสิวเห่อ สาว ๆ หลายคนเคยซื้อครีมมาใช้แล้วหน้าใส สิวหาย ฝ้ากระดูจางลงแต่พอหยุดใช้กลับพบว่า ปัญหาต่าง ๆ ที่เคยดีกลับแย่ลงเรื่อย ๆ จากหน้าที่เคยใส ไร้สิว กลับมามีสิวเห่อ เกิดเป็นสิวอักเสบ มีรอยแดง รอบด่างดำซึ่งอาจมีส่วนผสมของสารอันตรายอย่างสเตียรอยด์
- เนื้อครีมคล้ายเนื้อทราย ไม่ใช้เม็ดบีดส์ซึ่งหากมองด้วยตาเปล่าจะพบลักษณะของเนื้อครีมค่อนข้างมีความหยาบซึ่งไม่ใช่ลักษณะของเม็ดบีดส์ที่อาจจะพบเจอได้ในโฟมล้างหน้ามากกว่า หากพบลักษณะที่กล่าวมา ให้หลีกเลี่ยง
โดยทั้ง 5 จุดสังเกตเป็นเพียงส่วนหนึ่งในการตรวจสอบสารอันตรายในเครื่องสําอางซึ่งอาจจะมีการสังเกตการขึ้นทะเบียนว่ามีเครื่องหมายอย. หรือไม่ รวมถึงการอ่านฉลาก หรือทดสอบเนื้อครีมหาสารอันตรายเบื้องต้นได้ด้วยตนเองซึ่งจะช่วยป้องกันไม่ให้คุณหน้าพังจากเครื่องสำอาง
สามารถทดลองประสิทธิภาพของเครื่องสำอางที่ปลอดสารอันตราย ได้แล้ววันนี้
โทร 034-440-258