December 6, 2022

เรื่องน่ารู้ คอลลาเจน คืออะไร? ทำมาจากอะไร และช่วยบำรุงผิวพรรณได้ยังไง

คงไม่มีสาวคนไหนที่ไม่รู้จักตัวช่วยดี ๆ อย่าง คอลลาเจน (Collagen) จริงไหม? คอลลาเจน เป็นส่วนประกอบของผิวหนังที่จะช่วยให้โครงสร้างผิวเราแข็งแรง มีความยืดหยุ่น เรียบเนียน ลดรอยเหี่ยวย่น ดูแลสุขภาพผิวให้ดูอ่อนเยาว์ นอกจากนี้แล้วประโยชน์ของคอลลาเจนก็ยังมีอีกมากมาย จึงทำให้แบรนด์ต่าง ๆ นำคอลลาเจนมาเป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ทั้งเครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว รวมถึงอาหารเสริม และเพื่อให้สาว ๆ ได้รู้จักกับ “คอลลาเจน” มากขึ้น เราจึงมีเรื่องราวที่น่ารู้เกี่ยวกับ คอลลาเจน คืออะไร? Hydrolyzed Collagen ทํามาจากอะไร? และคอลลาเจน ช่วยอะไรบ้าง ถ้างั้นไม่รอช้า…ติดตามอ่านไปพร้อมกันเลย

คอลลาเจนคืออะไร?

เชื่อว่าสาว ๆ หลายคนคงต้องเคยได้ยินหรือพอรู้จักกับ “คอลลาเจน” กันมาบ้าง แต่ก็ยังมีอีกหลายคนที่ไม่รู้จักว่าคอลลาเจนคืออะไร เราจึงได้สรุปมาให้สั้น ๆ ดังนี้

  • คอลลาเจน คือ เส้นใยโปรตีนชนิดหนึ่งที่ร่างกายสามารถสร้างขึ้นเองตามธรรมชาติ
  • องค์ประกอบหลักของผิวหนัง เส้นผม กระดูก เส้นเอ็น และเนื้อเยื่อต่าง ๆ ในร่างกาย
  • โดยคอลลาเจนถือเป็นส่วนประกอบหลักที่สำคัญของผิวหนัง ที่มีมากถึงร้อยละ 75 – 80
  • มีคุณสมบัติเหมือนกับกาวที่คอยยึดเกาะและเป็นโครงสร้างของเนื้อเยื่อต่าง ๆ ในร่างกาย
  • ทำหน้าที่ช่วยเพิ่มความแข็งแรง และเพิ่มความยืดหยุ่นให้แก่อวัยวะต่าง ๆ ภายในร่างกาย
  • เมื่อร่างกายมีปริมาณคอลลาเจนที่ลดน้อยลงหรือเสื่อมสภาพก็จะส่งผลต่อความชราของผิวหนัง

คอลลาเจนชนิดไหนที่สามารถพบได้บ่อยในร่างกาย

ตามปกติแล้วในร่างกายของคนเราจะมีคอลลาเจน (Collagen) มากกว่า 16 ชนิด โดยคอลลาเจนแต่ละชนิดจะมีความแตกต่างกันไปตามชนิดและรูปแบบของกรดอะมิโน และคอลลาเจนที่สามารถพบมากที่สุด 5 ชนิดได้แก่

  • คอลลาเจนประเภทที่ 1 (Collagen type I)

คอลลาเจนชนิดนี้จะมีมากสุดในร่างกาย หรือคิดเป็น 90% โดยสามารถพบได้ที่ผิวหนัง และกระดูก จึงช่วยเพิ่มความยืดหยุ่น ป้องกันเนื้อเยื้อไม่ให้ฉีกขาด และช่วยสมานแผลบนผิวหนังได้เป็นอย่างดี

  • คอลลาเจนประเภทที่ 2 (Collagen type II)

คอลลาเจนชนิดนี้จะมีอยู่ประมาณ 60% ในร่างกาย โดยส่วนมากก็จะพบคอลลาเจนได้ในกระดูก กระดูกอ่อน ข้อต่อ กระดูกอ่อน และหมอนรองกระดูกสันหลัง จึงค่อนข้างมีความยืดหยุ่นมากกว่าคอลลาเจนชนิดที่ 1 และทำหน้าที่ช่วยสร้างกระดูกอ่อนขึ้นมาใหม่ ช่วยลดการอักเสบ สามารถรองรับน้ำหนักเพื่อให้ความแข็งแรงแก่ข้อต่อในขณะที่มีการเคลื่อนไหว จึงช่วยลดอาการปวดข้อและกล้ามเนื้อได้

  • คอลลาเจนประเภทที่ 3 (Collagen type III)

คอลลาเจนชนิดที่ 3 โดยส่วนมากจะพบร่วมกับคอลลาเจนชนิดที่ 1 แต่พบได้น้อยกว่าประมาณ 10% โดยส่วนใหญ่จะพบคอลลาเจนอยู่ในผนังหลอดเลือด และสามารถพบได้ในผิวหนัง กล้ามเนื้อ อวัยวะภายใน และหลอดเลือดแดง ซึ่งคอลลาเจนชนิดที่ 3 ทำหน้าที่ในการสร้างมวลกล้ามเนื้อ เพิ่มประสิทธิภาพและลดอาการบาดเจ็บในขณะออกกำลังกาย อีกทั้งยังช่วยในการสังเคราะห์เกล็ดเลือดอีกด้วย

  • คอลลาเจนประเภทที่ 4 (Collagen type IV)

คอลลาเจนชนิดที่ 4 เป็น คอลลาเจน (Collagen) มีลักษณะเฉพาะตัว สามารถพบได้เฉพาะบริเวณเส้นใยฝอยของเนื้อเยื่อเกี่ยวพันที่หุ้มกล้ามเนื้อและไขมัน โดยทำหน้าที่ช่วยในเรื่องการทำงานของของระบบประสาทและเส้นเลือด

  • คอลลาเจนประเภทที่ 5 (Collagen type V)

คอลลาเจนชนิดที่ 5 เป็น คอลลาเจน (Collagen) ที่เป็นองค์ประกอบของเยื่อบุเซลล์ต่าง ๆ พบในผิวของเซลล์ เส้นผม และรก

ผลิตภัณฑ์คอลลาเจน (Collagen) มีกี่ชนิด

ปัจจุบันผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของคอลลาเจน (Collagen) ได้รับความนิยมเลือกใช้กันมาก ทำให้แบรนด์ชั้นนำได้นำคอลลาเจนมาเป็นผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ หลากหลายรูปแบบ เนื่องจากคอลลาเจน (Collagen) นั้นจะไม่สามารถนำมารับประทานได้โดยตรง เพราะว่ามีขนาดและความหนาแน่นที่สูงมาก ดูดซึมได้ยาก จึงจำเป็นที่จะต้องผ่านกระบวนการแปรรูปให้มีขนาดเล็ก เพื่อให้ร่างกายสามารถดูดซึมได้ง่ายขึ้น ซึ่งปัจจุบันผลิตภัณฑ์ที่ได้จากคอลลาเจน (Collagen) ทั่วไปมีด้วยกัน 2 ชนิด ดังนี้

1. เจลาติน (Gelatin)

เจลาติน คือ สารให้ความหนืดชนิดหนึ่ง โดยส่วนใหญ่นิยมนำมาใช้เป็นส่วนผสมในภาคอุตสาหกรรมอาหารและยาในหลากหลายรูปแบบ โดยเป็นสารสร้างเจล สารที่ช่วยให้มีความใสในอุตสาหกรรมเครื่องดื่ม สารช่วยในการยึดเกาะ อิมัลซิไฟเออร์ สารที่ทำให้ความคงตัว สารยึดติด และสารให้ความข้นหนืด เป็นต้น ลองมาดูกันสิว่าถ้านำเจลาตินมาใช้ในอุตสาหกรรมอาหารและยา จะเป็นยังไงบ้าง

• เจลาตินในอุตสาหกรรมอาหาร : ถูกนำมาใช้ในการทำอาหารประเภทขนมหวาน เช่น ผลิตภัณฑ์นม เยลลี่ เบเกอรี ไอศกรีม รวมถึงเครื่องดื่มบางชนิดก็ใส่เจลาตินผสมลงไปด้วย

• เจลาตินในอุตสาหกรรมยา : ใช้ในการผลิตแคปซูลทั้งแบบชนิดแข็งและนิ่ม หรือใช้ในการเคลือบเม็ดยา หรือใช้เป็นส่วนผสมเพื่อให้โปรตีนก็ได้เช่นกัน และยังใช้ผลิตวัสดุสังเคราะห์สำหรับการศัลยกรรม

2. ไฮโดรไลซ์ คอลลาเจน (Hydrolyzed Collagen)

Hydrolyzed Collagen คือ คอลลาเจนที่ได้ผ่านกระบวนการย่อยบางส่วนมาแล้ว โดยจะเป็นกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เพื่อที่จะได้คอลลาเจนที่มีขนาดเล็กและความยาวสั้น ซึ่งเป็นคอลลาเจนที่ได้ผ่านการย่อยด้วยกรดจนได้ขนาดอนุภาคที่เล็กที่สุด

Hydrolyzed Collagen มีส่วนช่วยในการเสริมความแข็งแรงให้กับคอลลาเจนในชั้นผิว โดยส่วนใหญ่ก็จะนิยมนำ Hydrolyzed Collagen มารับประทานเป็นวิตามินและอาหารเสริม ในรูปแบบเม็ดหรือแคปซูล สามารถที่ดูดซึมเข้าสู่เซลล์ผิวชั้นลึกของร่างกายได้ดี นอกจากนี้ Hydrolyzed Collagen ในเครื่องสําอาง เช่น ครีมบำรุงผิวพรรณ ครีมทาหน้า ครีมลดริ้วรอย ครีมบำรุงรอบดวงตา และผลิตภัณฑ์บำรุงผมต่าง ๆ

ประโยชน์ของคอลลาเจน

คำถามที่พบบ่อยมากที่สุดอันดับต้น ๆ เลยก็คือ “คอลลาเจน ช่วยอะไร” ซึ่งบางคนรู้แค่ว่าคอลลาเจนช่วยบำรุงผิวพรรณ ลดริ้วรอย หรือเรียกง่าย ๆ ว่าทำให้ไม่แก่ก่อนวัยนั่นเอง แต่อยากบอกว่าประโยชน์ของคอลลาเจนนั้นมีอีกมากมายที่หลายคนอาจไม่รู้ ถ้างั้นมาดูกัน

ประโยชน์ของคอลลาเจนด้านสุขภาพผิว

  • ดูแลสุขภาพผิวพรรณให้แลดูอ่อนเยาว์
  • เพิ่มความยืดหยุ่น กระชับ เรียบเนียนยิ่งขึ้น
  • ป้องกันฝ้า จุดด่างดำต่าง ๆ และลดเลือนริ้วรอยบนใบหน้า
  • บำรุงผิวให้แข็งแรง ลดรอยเหี่ยวย่น และช่วยรักษาสิว ลดการอักเสบ
  • เติมความชุ่มชื้นให้กับผิว และยังสามารถป้องกันการสูญเสียน้ำที่ชั้นผิวได้
  • ช่วยปกป้องผิวและกรองสารพิษจากสิ่งแวดล้อมและเชื้อโรคต่าง ๆ ได้อีกด้วย

ประโยชน์ของคอลลาเจนทางการแพทย์

  • ป้องกันการสูญเสียมวลกระดูก
  • ช่วยกระตุ้นการเกิดมวลกล้ามเนื้อ
  • บำรุงข้อต่อกระดูก รักษาโรคข้อเสื่อม
  • เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบโลหิต
  • ช่วยสลายโปรตีนในร่างกาย และบำรุงภายในลำไส้
  • ช่วยบำรุงกระจกตา เพิ่มความชุ่มชื้นในเลนส์ตา ช่วยลดอาการตกแห้งได้
  • ทำให้หัวใจแข็งแรง เนื่องจากคอลลาเจนเป็นหนึ่งในโครงสร้างของหลอดเลือดแดง

สาเหตุที่ทำให้คอลลาเจน (Collagen) เสื่อมสภาพ

ถึงแม้คอลลาเจนสามารถสร้างขึ้นเองตามธรรมชาติ แต่ก็มีวันที่คอลลาเจนเสื่อมประสิทธิภาพลดลง ซึ่งสาเหตุมีด้วยกันหลายปัจจัย

  • คนที่มีพฤติกรรมสูบบุหรี่
  • มีความเครียดอยู่ตลอดเวลา
  • อายุที่เริ่มมากขึ้น การผลิตคอลลาเจนลดลงน้อย
  • นอนพักผ่อนไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย
  • การเลือกรับประทานอาหารที่ไม่มีประโยชน์ กินไม่ครบ 5 หมู่
  • ร่างกายได้รับรังสี UV จากแสงแดดมากเกินไป ทำให้ผิวพรรณเสีย
  • การรับประทานน้ำตาลและคาร์โบไฮเดรตที่ผ่านการขัดสีมากจนเกินไป
  • สาเหตุหนึ่งอาจมาจากพันธุกรรม ที่เป็นตัวกำหนดปริมาณคอลลาเจนในร่างกาย

ตอบทุกข้อสงสัยเกี่ยวกับ คอลลาเจน (Collagen)

อ่านมาถึงตรงนี้ เชื่อว่าหลายคนอาจจะยังมีคำถามคาใจเกี่ยวกับคอลลาเจนอยู่บ้าง ดังนั้น วันนี้เราจึงรวบรวมคำถามและคำตอบเกี่ยวกับ คอลลาเจน (Collagen) มีอะไรบ้างนั้น มาดูกัน

  • รับประทานคอลลาเจนในปริมาณเท่าไหร่ต่อวัน

การรับประทานคอลลาเจนที่เหมาะสมนั้น ขึ้นอยู่ความต้องการของแต่ละคน ดังนี้

  • ต้องการช่วยเรื่องการลดริ้วรอย ควรทานคอลลาเจน 10,000 มก. ต่อวัน
  • บำรุงสุขภาพธรรมดาทั่วไป ไม่ได้เน้นอะไรมาก ควรทานคอลลาเจน 5,000 มก. ต่อวัน
  • กรณีผู้สูงอายุต้องการบำรุงรักษากระดูก ควรทานคอลลาเจน 2,500 มก. – 5,000 มก. ต่อวัน

หลายคนน่าจะมีคำถามนี้อยู่ในใจ ก็ต้องบอกว่ามีงานวิจัยบางฉบับกล่าวไว้ว่า การรับประทานคอลลาเจนมีส่วนช่วยให้ผิวมีความยืดหยุ่นสูงมากขึ้น เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว และยังช่วยเพิ่มความหนาแน่นของคอลลาเจนในผิวหนังได้อีกด้วย ทั้งนี้ ต้องยอมรับว่าคอลลาเจนคืออาหารเสริมอีกประเภทหนึ่ง ดังนั้น ควรจะดูแลตัวเองด้วยการเลือกรับประทานอาหารที่ดีให้ครบ 5 หมู่

  • ครีมบำรุงผิวที่มีส่วนผสมของคอลลาเจนช่วยลดเลือนริ้วรอยได้หรือไม่

โฆษณาผลิตภัณฑ์ครีมบำรุงผิวแบรนด์ต่าง ๆ ได้บอกถึงสรรพคุณว่ามีสามารถลดเลือนริ้วรอย และสามารถช่วยฟื้นฟูความอ่อนเยาว์ของผิวหนังได้จริงหรือไม่ ก็ต้องบอกว่าครีมบำรุงผิวจากคอลลาเจนเมื่อใช้แล้วจะได้ผลลัพธ์ต่อผิวหนังชั้นบนเท่านั้น ซึ่งก็เหมือนกับครีมมอยส์เจอร์ไรเซอร์ทั่วไป ที่สามารถช่วยได้เพียงแค่ลดการสูญเสียน้ำของผิวหนัง จึงช่วยให้ผิวมีความชุ่มชื้นและอ่อนนุ่มขึ้นเท่านั้น ดังนั้น คอลลาเจน จึงไม่มีประสิทธิภาพในลดการสูญเสียคอลลาเจน หรือลบเลือนริ้วรอยได้นั่นเอง

ทั้งหมดนี้ก็เป็นเรื่องราวน่ารู้เกี่ยวกับ คอลลาเจน (Collagen) ที่ได้รวบรวมนำมาฝากกันในบทความนี้ ก็หวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับผู้อ่านทุกท่าน สำหรับใครที่ต้องการมีสุขภาพผิวพรรณแลดูอ่อนเยาว์ ไม่อยากดูแก่ก่อนวัยอันควร อย่าลืมดูแลสุขภาพผิวตัวเองด้วยการรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ให้หมั่นออกกำลังกาย และอาจจะเพิ่มเติมด้วยอาหารเสริมที่มีส่วนผสมของคอลลาเจน เพียงแค่นี้จะช่วยให้คุณมีสุขภาพผิวที่ดีแล้ว ถ้าใครอยากเป็นเจ้าของแบรนด์ หรือมีปัญหาเกี่ยวกับการผลิต สามารถติดต่อสอบถาม หรือใช้บริการ อาร์ แอนด์ ดี อินเตอร์ แมนูแฟคเจอริ่ง พร้อมให้บริการผลิตเครื่องสำอางครบวงจร

สามารถทดลองประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ได้แล้ววันนี้ ที่โรงงานผลิตเครื่องสำอาง R&D Inter

โทร 034-440-258

บทความที่เกี่ยวข้อง

สาระน่ารู้สำหรับเจ้าของแบรนด์

30 แคปชั่นขายครีมโดนๆ ไว้โพสต์ขายของปี 2023

ในยุคที่การตลาดออนไลน์กลายเป็นตลาดสุดร้อนแรงทั้งในเรื่องปริมาณผู้บริโภคที่เข้ามาในตลาดอย่างต่อเนื่องและการแข่งขันของผู้ขายอย่างดุเดือดเนื่องจากมีจำนวนร้านค้าอออนไลน์เพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดดด้วยขอบเขตรายได้ที่ค่อนข้างสูงหาสามารถเข้ามาตีตลาดได้สำเร็จโดยเฉพาะธุรกิจเครื่องสำอางซึ่งวันนี้จะนำเสนอในมุมมองของการขายครีมว่าขายครีมยังไงให้ปัง พร้อมแคปชั่นขายครีมแบบสับ ๆ มัดใจลูกค้าให้สั่งซื้อกันจุก ๆ แคปชั่น (Caption) เป็นคำบรรยายสั้น ๆ ที่ใช้สื่อสารถึงสิ่งนั้น ๆ ซึ่งในแง่ของการขายสินค้าแคปชั่นคงไม่ต่างจากการแนะนำสินค้า โฆษณาสิ่งของควบคู่ไปกับภาพสินค้าสวย ๆ เพื่อเรียกความสนใจจากลูกค้าให้เขาหยุดอ่านดูเพื่อเพิ่มโอกาสในการซื้อสินค้า 30 แคปชั่นขายครีมโดนๆ เป็นแม่ค้า พ่อค้าออนไลน์ในยุคนี้ จะคิดแคปชั่นโพสต์แต่ละทีก็กินเวลาไปหลายนาทีเพราะกลัวซ้ำ ไม่ถูกใจลูกค้า หรือจะไม่มีใครมากดไลค์ซึ่งเราได้รวบรวม 30 แคปชั่นขายครีมโดนๆ มาฝาก

สาระน่ารู้สำหรับเจ้าของแบรนด์

อยากทําแบรนด์ของตัวเองต้องเริ่มยังไงให้ปัง กำไรเยอะ

อาชีพที่หลายคนอาจใฝ่ฝันคือการก้าวสู่การเป็นเจ้าของธุรกิจ (Owner Business) ซึ่งอาจจะไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ทำได้หากอยากลงมือทำซึ่งในวันนี้เอาใจคนที่มีฝันอยากสร้างแบรนด์ตัวเองผ่านการเผยสูตรเคล็ดลับการเริ่มต้นสร้างธุรกิจ ว่ามีกลยุทธ์ใดบ้างที่ต้องรู้และต้องเตรียมความพร้อมอย่างไรซึ่งอย่ารอช้า! ไปเริ่มกันเลย 9 กลยุทธ์เริ่มต้นสร้างแบรนด์สู่ความสำเร็จ เผย 9 กลยุทธ์สู่ความสำเร็จซึ่งจะมีปัจจัยใดบ้างที่น่าสนใจเพื่อเอาใจมือใหม่ที่กำลังเริ่มต้นสร้างของตัวเอง ก่อนจะเริ่มทำแบรนด์ก็ต้องรู้จักกลุ่มเป้าหมายกันก่อนว่าสินค้าที่เราจะทำออกมาสู่ตลาดเหมาะกับคนกลุ่มไหน หรือมองเห็นโอกาสจากคนกลุ่มไหนซึ่งก็จะต้องมาศึกษาหาข้อมูล Insight กันเพิ่มเติมเพื่อตีกลุ่มเป้าหมายให้แตก เมื่อรู้กลุ่มเป้าหมาย ได้สินค้าที่ต้องการผลิตออกมาจำหน่ายแล้วก็ต้องออกไปสำรวจตลาดว่ามีแนวโน้มธุรกิจเป็นอย่างไร พอจะเป็นไปได้ไหม จำนวนคนขายสินค้าประเภทนี้มีมากน้อยเพียงใด หากผลิตสินค้าออกมาจะสามารถตีตลาดได้ไหม จุดแข็งจุดอ่อนของคู่แข่งทางธุรกิจมีอะไรบ้างโดยนำไปเปรียบเทียบและทำการวิเคราะห์เพื่อนำไปวางกลยุทธ์ต่อไป เมื่อเราเริ่มเข้าใจตลาดเบื้องต้นแล้วและมองเห็นว่าธุรกิจไปได้ ลำดับต่อไปก็ลองมาร่างแผนธุรกิจ (Business

สาระน่ารู้สำหรับเจ้าของแบรนด์

เปิด 5 เว็บไซต์ออกแบบโลโก้สุดปังทั้งแบบฟรี และมีค่าใช้จ่ายในปั 2023

การสร้างแบรนด์ นอกจากลงเงินแล้วยังต้องสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กลายเป็นที่จดจำด้วยสินค้าที่มีคุณภาพ ใส่ใจทุกความต้องการของลูกค้าซึ่ง ”โลโก้” ถือเป็นองค์ประกอบที่สำคัญของแบรนด์เพราะแสดงออกถึงการตัวตนของแบรนด์นั้น ๆ ที่สามารถออกแบบโลโก้ ออนไลน์ ฟรีได้ง่าย ๆ ผ่านเว็บไซต์เอาใจผู้ที่เริ่มต้นอยากทำแบรนด์เป็นของตัวเองได้ง่าย ๆ โลโก้ คืออะไร ทำไมถึงสำคัญต่อแบรนด์ เริ่มต้นกันที่คำนิยามของโลโก้ (Logo) ซึ่งเปรียบเสมือนสัญลักษณ์ หรือเครื่องหมายที่บ่งบอกถึงตัวตนของแบรนด์นั้น ๆ หรือเปรียบเทียบเป็นภาพจำ หากเห็นโลโก้แบรนด์นี้สื่อถึงอะไร โลโก้จึงเปรียบเสมือนผู้ที่ทำหน้าที่ในการสื่อสารความเป็นแบรนด์ออกไป พร้อมการบอกเล่าเรื่องราว สร้างความเชื่อมั่นและการจดจำไปตามกาลเวลา