December 26, 2022

ผลิตภัณฑ์ออร์แกนิค คืออะไร? และเครื่องสําอางออแกนิค เหมาะกับใครบ้าง?

ใครที่มีปัญหาผิวบอบบางแพ้ง่าย ห้ามพลาดบทความนี้! เพราะถ้าหากคุณกำลังมีปัญหาเกี่ยวกับการใช้สกินแคร์หรือเครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของสารเคมี หรือมีน้ำหอมผสมอยู่ในผลิตภัณฑ์ ก็มักจะเกิดอาการแพ้ระคายเคืองต่อผิว เราแนะนำให้เลือกใช้ผลิตภัณฑ์หรือเครื่องสำอางออร์แกนิค ที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติเป็นองค์ประกอบโดยสำคัญ เพื่อความปลอดภัยและช่วยให้ผิวสุขภาพดี วันนี้เราจะพาทุกคนมาทำความรู้จัก ผลิตภัณฑ์ออแกนิค คือ เครื่องสำอางออแกนิคข้อดีข้อเสียยังไง พร้อมแนะนำเครื่องสําอางออแกนิคแบรนด์ไทยมีอะไรบ้าง ติดตามอ่านไปพร้อมกันเลย

ก่อนอื่นมาทำความรู้จักกับคำว่า Organic (ออแกนิค) หมายถึง การเกษตรอินทรีย์, อาหาร และสินค้าที่ได้จากฟาร์ม หรือแหล่งผลิตที่มีระบบการผลิตไม่พึ่งพาการใช้สารเคมี ปุ๋ยเคมี หรือฮอร์โมนใด ๆ โดยกระบวกการผลิตตั้งแต่เริ่มต้นจนจบกระบวนการผลิตจะต้องผ่านการดูแลอย่างพิถีพิถันที่ได้ตามหลักมาตรฐานสากล

ผลิตภัณฑ์ออแกนิค คืออะไร

ผลิตภัณฑ์ออแกนิค คือ ผลิตภัณฑ์ที่ได้จากธรรมชาติ ไม่มีการปนเปื้อนของสารเคมีในกระบวนผลิตและแปรรูป โดยการเลือกใช้วัตถุดิบสารสกัดจากธรรมชาติออร์แกนิค จึงปลอดภัยต่อการอุปโภคบริโภค และยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย นอกจากนี้ ผลิตภัณฑ์ออแกนิคจะมีกระบวนการผลิตขึ้น โดยผ่านกระบวนการผลิตที่ปลอดสารพิษในทุกขั้นตอน ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์ออแกนิคมีหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นสินค้าอุปโภค บริโภค เครื่องใช้ต่าง ๆ เป็นต้น

เครื่องสําอางออแกนิค คืออะไร

เครื่องสําอางออแกนิค (Organic Cosmetics) ที่มีส่วนผสมจากวัตถุดิบที่เป็นอินทรีย์ หรือมีส่วนผสมธรรมชาติจาก Organic ไม่ต่ำกว่า 95% โดยทุกกระบวนในการผลิตทุกขั้นตอน เริ่มตั้งแต่การเพาะปลูกไปจนถึงการผลิตจะจะต้องปราศจากการใช้สารเคมีทั้งสิ้น ทั้งนี้ เครื่องสําอางจากธรรมชาติ (Natural Cosmetics) ก็อาจจะเป็นเครื่องสำอางที่ผลิตจากวัตถุดิบที่ได้มาจากธรรมชาติ แต่อาจจะไม่ใช่เครื่องสําอางออแกนิคก็ได้

เครื่องสําอางออแกนิค (Organic Cosmetics) กับ เครื่องสําอางจากธรรมชาติ (Natural Cosmetics) แตกต่างกันอย่างไร

หลายคนอาจสับสนอยู่บ้างว่า เครื่องสําอางออแกนิค (Organic Cosmetics) กับ เครื่องสําอางจากธรรมชาติ (Natural Cosmetics) มีความแตกต่างกันอย่างไร ขออธิบายสั้น ๆ เพื่อให้เข้าใจได้ง่าย ดังนี้

  • เครื่องสําอางออแกนิค (Organic Cosmetics)

ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมมาจากธรรมชาติ ไม่มีการดัดแปลงพันธุกรรม (GMO) ที่สำคัญไม่มีสารเคมีในกระบวนการผลิต โดยทุกอย่างจะถูกควบคุมให้เป็นธรรมชาติมากที่สุด

  • เครื่องสําอางจากธรรมชาติ (Natural Cosmetics)

เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมที่มาจากธรรมชาติ และในกระบวนการผลิตมีการพยายามหลีกเลี่ยง เพื่อให้คงคุณค่าความเป็นธรรมชาติมากที่สุดนั่นเอง

เครื่องสำอางออแกนิคมีข้อดี-ข้อเสีย อะไรบ้าง

ใครที่ลังเลไม่แน่ใจว่าเลือกใช้เครื่องสำอางออแกนิคมาใช้ดีไหม เราจึงได้สรุปมาให้แล้วว่าเครื่องสำอางออแกนิค ข้อดี ข้อเสีย อะไรบ้าง เพื่อจะได้นำข้อมูลเหล่านี้ประกอบการพิจารณาว่าจะซื้อมาใช้ดีไหม มาดูกัน

ข้อดีของเครื่องสำอางออแกนิค

  • มีคุณสมบัติในการช่วยบำบัดและบำรุงผิว
  • ปราศจากสารที่เป็นอันตรายต่อผิวหนัง จนก่อให้เกิดการอุดตัน
  • ปราศจากสารอันตรายที่ก่อมะเร็ง เนื่องจากเครื่องสำอางออแกนิคจะไม่มีสารพาราเบน (Paraben) ซึ่งเป็นสารที่ก่อมะเร็งชนิดหนึ่ง
  • อ่อนโยนต่อผิวและไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง เนื่องจากเครื่องสำอางปราศจากสารเคมี จึงทำให้ไม่เกิดการระคายเคืองแก่ผิว
  • สามารถใช้เครื่องสำอางออแกนิคได้บ่อยตามที่ต้องการ โดยที่ไม่เป็นอันตรายต่อผิวหนัง เนื่องจากผลิตจากวัตถุที่เป็นธรรมชาติ

ข้อเสียของเครื่องสำอางออแกนิค

  • อาการแพ้อาจเกิดขึ้นสำหรับบางคน
  • ราคาอาจจะแพงกว่าเครื่องสำอางทั่วไป

เครื่องสำอางออแกนิคเหมาะกับใคร

จริง ๆ แล้วเครื่องสำอางออแกนิค หรือ เครื่องสําอางจากธรรมชาติ สามารถใช้ได้กับทุกสภาพผิว โดยเฉพาะคนที่มีผิวบอบบางแพ้ง่าย

แนะนำ 5 เครื่องสําอางออแกนิคแบรนด์ไทย ที่ใช้ดีจนอยากบอกต่อ!

ขอบอกเลยว่าเครื่องสำอางออแกนิคสัญชาติไทย ไม่แพ้เครื่องสำอางออแกนิคแบรนด์ต่างชาติเลย มีคุณสมบัติที่โดดเด่นส่วนผสมที่ได้จากธรรมชาติ มีความออแกนิคสุด ๆ เหมาะกับทุกสภาพผิว อีกทั้งราคาจับต้องได้ ใครๆก็สามารถซื้อมาใช้ได้ วันนี้จะมาแนะนำ 5 เครื่องสําอางออแกนิคแบรนด์ไทย จะมีแบรนด์ไหนบ้างที่น่าสนใจ เราไปดูกันเลย

1. เครื่องสำอางออแกนิค แบรนด์ Lovella Organics

เครื่องสําอางออแกนิคแบรนด์ไทยแรกที่อยากแนะนำก็คือ Lovella Organics ถือเป็นแบรนด์น้องใหม่ของไทย ที่ให้ความสำคัญกับคุณภาพของผลิตภัณฑ์ โดยใช้ส่วนผสมของสารอินทรีย์หรือส่วนประกอบออร์แกนิคที่ดีที่สุด ซึ่งผลิตภัณฑ์แรกที่ผลิตขึ้นมาขายคือ ลิปทรีทเม้นต์ออร์แกนิค 100% ช่วยบำรุงล้ำลึกมากกว่าลิปมันปกติทั่วไป มีส่วนผสมเป็นออแกร์นิคแท้ 100% โดยส่วนผสมทั้งหมดผ่านการรองรับด้วยตรา USDA ที่ปลอดภัยไร้สารพิษ และยังช่วยทำให้ริมฝีปากหายคล้ำอีกด้วย ถือเป็นเครื่องสำอางออแกนิคไทยที่ควรต้องหาซื้อมาใช้แล้ว!!!

2. เครื่องสำอางออแกนิค แบรนด์ Thank U Earth

มาต่อกันที่ Thank U Earth เครื่องสําอางออแกนิคแบรนด์ไทย อีกหนึ่งแบรนด์ที่สายออแกนิคไม่ควรพลาดเลย มีผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางจากสารสกัดจากธรรมชาติและสมุนไพร ซึ่งผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่นของแบรนด์คือจะใส่ผงถ่านบริสุทธิ์ลงไปในผลิตภัณฑ์ด้วย จึงทำให้กลายเป็นซิกเนเจอร์ของแบรนด์กันเลย และผลิตภัณฑ์อยากแนะนำให้ซื้อมาใช้เลยคือ Charcoal Detoxifying Body Mask & Scrub (ผลิตภัณฑ์พอก ขัดผิว สูตรถ่านไม้ไผ่) บอกเลยว่าเด็ดสุด ๆ มีส่วนผสมของถ่านขาวบริสุทธิ์ ช่วยขจัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพออก ทำให้ผิวสะอาดอย่างล้ำลึก และสดชื่น สามารถใช้ได้ทุกสภาพผิว

3. เครื่องสำอางออแกนิค แบรนด์ Na Ha Thai

เครื่องสําอางออแกนิคแบรนด์ Na Ha Thai เป็นสกินแคร์แบรนด์ไทย ที่สามารถเปลี่ยนเมล็ดกาแฟให้เป็นเซรั่มต้านริ้วรอย เพิ่มความชุ่มชื้นช่วยให้ผิวนุ่มเนียนเรียบ เปล่งปลั่งกระจ่างใส ทั้งนี้ เมล็ดกาแฟที่ได้มาจากการปลูกแบบเกษตรอินทรีย์ แล้วนำมาสกัดด้วยกรรมวิธีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม แล้วยังปราศจากแอลกอฮอล์และสารที่ใช้เป็นวัตถุกันเสีย 100% จึงมั่นใจได้เลยว่าปลอดภัยแน่นอน ผลิตภัณฑ์ที่เราแนะนำควรซื้อ คือ Na Ha Thai Coffee Extract Supreme Antioxidant Serum เป็นเซรั่มที่อุดมด้วยสารแอนตี้ออกซิแดนท์ ช่วยเสริมสร้างเกราะป้องกันผิว ผิวแข็งแรง ปรับสมดุลผิว และเพิ่มความชุ่มชื้นแก่ผิว

4. เครื่องสำอางออแกนิค แบรนด์ Vowda Organic Cosmetics

VOWDA เครื่องสำอางออแกนิคสัญชาติไทย ได้รับรางวัลจากงานนวัตกรรมแห่งชาติ (NIA) การันตีสินค้าทุกชิ้นมีส่วนผสมที่ได้จากธรรมชาติบริสุทธิ์ และขั้นตอนจะไม่ใส่สารเคมี ซึ่งจุดเด่นแบรนด์นี้คือมีเครื่องสำอางให้เลือกหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็น แป้งพัฟ แป้งฝุ่น ลิปสติก และบลัชออน เป็นต้น สาว ๆ ที่มีปัญหาผิวแพ้ง่ายก็สามารถใช้ได้นะ เพราะแบรนด์เน้นเป็นสูตรออแกนิคที่มีความอ่อนโยนสูง จึงมั่นใจได้เลยว่าปลอดภัยแน่นอน และที่สำคัญราคาก็ไม่ได้แพงมากด้วย เทียบเท่ากับราคาเครื่องสำอางทั่วไปเลย

5. เครื่องสำอางออแกนิค แบรนด์ Organika

ถ้าพูดถึงเครื่องสําอางออแกนิคแบรนด์ไทย ที่หลายคนจับตามอง ก็คงต้องยกให้กับ แบรนด์ Organika (ออร์กานิก้า) เจ้าของแบรนด์เป็นนางเอกสาวชื่อดัง ศรีริต้า เจนเซ่น ที่ได้คิดค้นแบรนด์นี้ขึ้นมาเอง จุดเด่นของแบรนด์นี้คัดสรรเลือกวัตถุดิบที่ได้มาจากธรรมชาติแท้ ๆ ปราศจากการใช้สารเคมีอันตรายหรือสารเคมีแปลกปลอมอื่น ๆ ที่เป็นอันตราย แล้วยังมีกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรกับธรรมชาติ นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญกับเครื่องประทินผิวกาย มีให้เลือกหลากหลายประเภท และผลิตภัณฑ์ที่เราอยากแนะนำ Pure Aroma Massage Candle เป็นเทียนหอมที่สามารถใช้เป็นน้ำมันนวดตัว มีส่วนผสมวิตามินอี ช่วยบำรุง และจุดเทียนเพื่อความหอมก็ได้เช่นกัน

พอได้อ่านบทความนี้แล้ว ทุกคนก็น่าจะรู้จักผลิตภัณฑ์ออแกนิคคืออะไรกันมากขึ้น และสามารถแยกได้แล้วว่า เครื่องสําอางออแกนิค (Organic Cosmetics) กับเครื่องสําอางจากธรรมชาติ (Natural Cosmetics) แตกต่างกันอย่างไร รวมถึงข้อดีและข้อเสียอะไรบ้าง สำหรับใครอยากลองซื้อเครื่องสำอางออแกนิคมาใช้ แนะนำให้หาข้อมูลผลิตภัณฑ์ที่สนใจนั้น ๆ มาศึกษาดูก่อน เพื่อว่ามีส่วนผสมอะไรบางอย่างที่คุณอาจเกิดอาการแพ้ได้ ทั้งนี้ ใครสนใจอยากสร้างธุรกิจทำแบรนด์เครื่องสำอางของตัวเอง สามารถปรึกษาได้ที่ อาร์ แอนด์ ดี อินเตอร์ แมนูแฟคเจอริ่ง พร้อมให้บริการผลิตเครื่องสำอาง OEM อย่างครบวงจร

สามารถทดลองประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ได้แล้ววันนี้ ที่โรงงานผลิตเครื่องสำอาง R&D Inter

โทร 034-440-258

บทความที่เกี่ยวข้อง

สาระน่ารู้สำหรับเจ้าของแบรนด์

30 แคปชั่นขายครีมโดนๆ ไว้โพสต์ขายของปี 2023

ในยุคที่การตลาดออนไลน์กลายเป็นตลาดสุดร้อนแรงทั้งในเรื่องปริมาณผู้บริโภคที่เข้ามาในตลาดอย่างต่อเนื่องและการแข่งขันของผู้ขายอย่างดุเดือดเนื่องจากมีจำนวนร้านค้าอออนไลน์เพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดดด้วยขอบเขตรายได้ที่ค่อนข้างสูงหาสามารถเข้ามาตีตลาดได้สำเร็จโดยเฉพาะธุรกิจเครื่องสำอางซึ่งวันนี้จะนำเสนอในมุมมองของการขายครีมว่าขายครีมยังไงให้ปัง พร้อมแคปชั่นขายครีมแบบสับ ๆ มัดใจลูกค้าให้สั่งซื้อกันจุก ๆ แคปชั่น (Caption) เป็นคำบรรยายสั้น ๆ ที่ใช้สื่อสารถึงสิ่งนั้น ๆ ซึ่งในแง่ของการขายสินค้าแคปชั่นคงไม่ต่างจากการแนะนำสินค้า โฆษณาสิ่งของควบคู่ไปกับภาพสินค้าสวย ๆ เพื่อเรียกความสนใจจากลูกค้าให้เขาหยุดอ่านดูเพื่อเพิ่มโอกาสในการซื้อสินค้า 30 แคปชั่นขายครีมโดนๆ เป็นแม่ค้า พ่อค้าออนไลน์ในยุคนี้ จะคิดแคปชั่นโพสต์แต่ละทีก็กินเวลาไปหลายนาทีเพราะกลัวซ้ำ ไม่ถูกใจลูกค้า หรือจะไม่มีใครมากดไลค์ซึ่งเราได้รวบรวม 30 แคปชั่นขายครีมโดนๆ มาฝาก

สาระน่ารู้สำหรับเจ้าของแบรนด์

อยากทําแบรนด์ของตัวเองต้องเริ่มยังไงให้ปัง กำไรเยอะ

อาชีพที่หลายคนอาจใฝ่ฝันคือการก้าวสู่การเป็นเจ้าของธุรกิจ (Owner Business) ซึ่งอาจจะไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ทำได้หากอยากลงมือทำซึ่งในวันนี้เอาใจคนที่มีฝันอยากสร้างแบรนด์ตัวเองผ่านการเผยสูตรเคล็ดลับการเริ่มต้นสร้างธุรกิจ ว่ามีกลยุทธ์ใดบ้างที่ต้องรู้และต้องเตรียมความพร้อมอย่างไรซึ่งอย่ารอช้า! ไปเริ่มกันเลย 9 กลยุทธ์เริ่มต้นสร้างแบรนด์สู่ความสำเร็จ เผย 9 กลยุทธ์สู่ความสำเร็จซึ่งจะมีปัจจัยใดบ้างที่น่าสนใจเพื่อเอาใจมือใหม่ที่กำลังเริ่มต้นสร้างของตัวเอง ก่อนจะเริ่มทำแบรนด์ก็ต้องรู้จักกลุ่มเป้าหมายกันก่อนว่าสินค้าที่เราจะทำออกมาสู่ตลาดเหมาะกับคนกลุ่มไหน หรือมองเห็นโอกาสจากคนกลุ่มไหนซึ่งก็จะต้องมาศึกษาหาข้อมูล Insight กันเพิ่มเติมเพื่อตีกลุ่มเป้าหมายให้แตก เมื่อรู้กลุ่มเป้าหมาย ได้สินค้าที่ต้องการผลิตออกมาจำหน่ายแล้วก็ต้องออกไปสำรวจตลาดว่ามีแนวโน้มธุรกิจเป็นอย่างไร พอจะเป็นไปได้ไหม จำนวนคนขายสินค้าประเภทนี้มีมากน้อยเพียงใด หากผลิตสินค้าออกมาจะสามารถตีตลาดได้ไหม จุดแข็งจุดอ่อนของคู่แข่งทางธุรกิจมีอะไรบ้างโดยนำไปเปรียบเทียบและทำการวิเคราะห์เพื่อนำไปวางกลยุทธ์ต่อไป เมื่อเราเริ่มเข้าใจตลาดเบื้องต้นแล้วและมองเห็นว่าธุรกิจไปได้ ลำดับต่อไปก็ลองมาร่างแผนธุรกิจ (Business

สาระน่ารู้สำหรับเจ้าของแบรนด์

เปิด 5 เว็บไซต์ออกแบบโลโก้สุดปังทั้งแบบฟรี และมีค่าใช้จ่ายในปั 2023

การสร้างแบรนด์ นอกจากลงเงินแล้วยังต้องสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กลายเป็นที่จดจำด้วยสินค้าที่มีคุณภาพ ใส่ใจทุกความต้องการของลูกค้าซึ่ง ”โลโก้” ถือเป็นองค์ประกอบที่สำคัญของแบรนด์เพราะแสดงออกถึงการตัวตนของแบรนด์นั้น ๆ ที่สามารถออกแบบโลโก้ ออนไลน์ ฟรีได้ง่าย ๆ ผ่านเว็บไซต์เอาใจผู้ที่เริ่มต้นอยากทำแบรนด์เป็นของตัวเองได้ง่าย ๆ โลโก้ คืออะไร ทำไมถึงสำคัญต่อแบรนด์ เริ่มต้นกันที่คำนิยามของโลโก้ (Logo) ซึ่งเปรียบเสมือนสัญลักษณ์ หรือเครื่องหมายที่บ่งบอกถึงตัวตนของแบรนด์นั้น ๆ หรือเปรียบเทียบเป็นภาพจำ หากเห็นโลโก้แบรนด์นี้สื่อถึงอะไร โลโก้จึงเปรียบเสมือนผู้ที่ทำหน้าที่ในการสื่อสารความเป็นแบรนด์ออกไป พร้อมการบอกเล่าเรื่องราว สร้างความเชื่อมั่นและการจดจำไปตามกาลเวลา